Juvelook vs. Sculptra

Juvelook vs. Sculptra - Key Differences

• Juvelook และ Sculptra มีกลไกการออกฤทธิ์ และประสิทธิภาพต่อผิวที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ของการรักษา

• Juvelook นั้นจะมี Hyaluronic Acid (HA) เป็นส่วนประกอบหลักเพื่อช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และความยืดหยุ่นของผิว มีกลไกในการปรับปรุงคุณภาพผิวจากภายใน แทนที่การเพิ่มปริมาตรซึ่งจะส่งให้เนื้อผิวเรียบเนียน กระจ่างใส ดุสุขภาพดี ซึ่งเป็นผลลัพธ์หลักจากการทำ Juvelook นอกจากนั้นยังมี PDLLA (Poly D, L-Lactic Acid) เป็นส่วนประกอบซึ่งจะช่วยกระตุ้นการผลิตคอลลาเจนตามธรรมชาติ เน้นสำหรับผิวชั้นตื้น


• Sculptra มี PLLA (Poly-L-Lactic Acid) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน เน้นลงลึกในระดับโครงสร้างผิว โดย Sculptra มีปริมาณตัวยาสำหรับกระตุ้นคอลลาเจน มากกว่า Juvelook ถึง 4 เท่า โดยคอลลาเจนที่ถูกกระตุ้นจะค่อยๆ ช่วยคืนปริมาตรของผิวที่หย่อนคล้อยในระดับโครงสร้าง และทำให้ริ้วรอยลึกเรียบเนียนขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ โดยผลลัพธ์นั้นสามารถอยู่ได้นานถึง 24 เดือน

ควรเลือกตัวไหนดีระหว่าง Juvelook และ Sculptra?

• หากคุณเป็นผู้ที่ต้องการเพิ่มความชุ่มชื้น ความกระชับ บำรุงให้ผิวฉ่ำวาวดูสุขภาพดี เป็นหลัก แต่เริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้าเล็กน้อย Juvelook อาจจะเหมาะกับคุณที่สุด

• เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ปัญหาในระยะยาว สำหรับผิวหย่อนคล้อย หากคุณมีร่องรอยบนใบหน้าที่ลึก ผิวหย่อนคล้อยในปริมาณมาก และต้องการฟื้นฟูโครงสร้างผิวให้กระชับในระดับโครงสร้าง Sculptra จะเหมาะสมกับคุณที่สุด

• สำหรับกรณีเคสรักษาหลุมสิว ทั้ง Juvelook และ Sculptra สามารถใช้เติมเต็มหลุมสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพทั้งคู่ โดยคุณสามารถเลือกใช้ตามแนวทางการรักษาที่แนะนำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ